บุโรพุทโธ (Borobudur) วัดในพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่เก้า
ภาพจาก worldatlas.com/articles/which-is-the-world-s-largest-buddhist-temple.html |
บุโรพุทโธ (Borobudur) เป็นวัดในพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 9 มีขนาด 123 x 123 เมตร สร้างเสร็จสมบูรณ์เป็นศตวรรษก่อนนครวัดในกัมพูชา
ในวัดแห่งนี้มีภาพพุทธประวัติถึง 1,460 ชิ้น พระพุทธรูป 504 องค์รอบฐานองค์บุโรพุทธโธ หลายล้านคนมีความกระตือรือร้นที่จะเยี่ยมชมบุโรพุทธโธแห่งนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลก มันไม่น่าแปลกใจตั้งแต่สถาปัตยกรรมและโครงสร้างของบุโรพุทธโธ ที่ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับพุทธศาสนิกชนกล่าวคำอธิษฐาน ทำให้บุโรพุทธโธ (Borobudur) เป็นที่น่าสนใจ
บุโรพุทโธ (Borobudur) ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์ Samaratungga ซึ่งเป็นหนึ่งของราชอาณาจักรมาตารามเก่า ในราชวงศ์ Sailendra ตามจารึกของ Kayumwungan ในอินโดนีเซีย ที่ชื่อ Hudaya Kandahjaya กล่าวว่า บุโรพุทธโธ (Borobudur) เป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด สร้างขึ้นเมื่อ 26 พฤษภาคม 824 เกือบ 100 ปี นับจากเวลาที่การก่อสร้างก็เริ่มขึ้น ชื่อของบุโรพุทธโธ (Borobudur) บางคนบอกว่าหมายถึง ภูเขาที่มีระเบียง (budhara) ในขณะที่คนอื่นๆ พูดว่า บุโรพุทโธ (Borobudur) นั่นหมายความว่า พระอารามในสถานที่สูง
บุโรพุทโธ (Borobudur) สร้างเป็นอาคารสิบระเบียง ความสูงก่อนที่จะปรับปรุงเป็น คือ 42 เมตร และหลังจากปรับปรุงแล้วเหลือ 34.5 เมตร เนื่องจากระดับต่ำสุดจะต้องใช้เป็นฐาน ฐานหกระเบียงแรกอยู่ในรูปแบบสี่เหลี่ยม สองระเบียงชั้นบนอยู่ในรูปแบบวงกลม และด้านบนเป็นระเบียงที่พระพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ระเบียงแต่ละขั้นแสดงการเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตมนุษย์ ในวิถีทางเดียวกันกับลัทธิมหายาน โดยทุกคนที่ตั้งใจที่จะเข้าถึงระดับของพระพุทธเจ้าต้องไปผ่านแต่ละขั้นตอนของชีวิตเสียก่อน
ฐานของ บุโรพุทโธ (Borobudur) เรียกว่า Kamadhatu แสดงสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ ที่ถูกผูกไว้โดยยังคงแสดงถึงความต้องการทางเพศ บนชั้น แสดงไว้ 4 เรื่อง เรียกว่า Rupadhatu แสดงสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ที่มีการตั้งตัวเองเป็นอิสระจากความต้องการทางเพศ แต่ยังคงผูกพันกับรูปร่างหน้าตา บนระเบียงของชั้นนี้ พระพุทธรูปจะอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งในขณะบนระเบียงที่สาม พระพุทธรูปอยู่อยู่ในเจดีย์ทรงคว่ำ มีแสงให้สองผ่านได้ เรียกว่า Arupadhatu แสดงถึงสัญลักษณ์ของมนุษย์ ที่ได้รับอิสระจากความปรารถนารูปร่างและหน้าตา ส่วนบนที่เรียกว่า Arupa แสดงถึงสัญลักษณ์ของนิพพาน ซึ่งเป็นที่ที่พระพุทธะเจ้าพำนักอยู่
ระเบียงแต่ละคนมีภาพแกะสลักที่แสดงเรื่องราวของพุทธประวัติ หรือแสดงลักษณะของชีวิตมนุษย์ แสดงถึงฝีมือประติมากรรมที่แกะสลักไว้อย่างสวยงาม เพื่อให้เข้าใจถึงลำดับของเรื่องราวจะต้องเดินตามเข็มนาฬิกาเริ่มจากทางเข้าวัด ภาพแกะสลักได้บอกเล่าเรื่องราวในตำนานของรามายณะ นอกจากนี้ยังมีภาพแกะสลักที่อธิบายสภาพของสังคมในเวลานั้น เช่น ตัวอย่างของกิจกรรมของเกษตรกร สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของระบบการเกษตร และการแล่นเรือใบ ที่แสดงถึงการเป็นตัวแทนของความก้าวหน้าของการเดินเรือใน Bergotta (Semarang ในปัจจุบัน)
ทั้งหมดของภาพแกะสลักที่ บุโรพุทโธ (Borobudur) แสดงให้เห็นถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุผลนี้เหมาะสำหรับการเรียนรู้และการสร้างความเข้าใจเบื่องต้นทางพุทธศาสนา สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจทางด้านพระพุทธศาสนา แนะนำว่าให้เดินไปรอบๆ ในแต่ละชั้นของ บุโรพุทธโธ (Borobudur) เพื่อให้รู้และเข้าใจปรัชญาของพุทธศาสนา Atisha พระสงฆ์จากอินเดียได้เดินทางมาเยี่ยมชมบุโรพุทธโธ (Borobudur) ในศตวรรษที่ 3 ที่ถูกสร้างขึ้นก่อนนครวัด ในประเทศกัมพูชาและ 4 ศตวรรษก่อนการสร้าง Cathedrals ในยุโรป
Atisha, มีความประสงค์ที่ต้องการทราบเกี่ยวกับจารึกเรื่องราวหรือข้อมูลในแต่ละภาพแกะสลัก ซึ่งพระ Serlingpa (พระมหากษัตริย์ของ Sriwijaya) ได้ถ่ายทอดให้ Atisha ฟัง หลังจากนั้น Atisha ก็กลับไปยังอินเดีย เพื่อปรับปรุงคำสอนของพระพุทธเจ้าและได้สร้างสถาบันศาสนาที่ชื่อว่า Vikramasila หลังจากนั้น Atisha ก็กลายเป็นผู้นำทางศาสนา และสอนศาสนาให้กับชาวทิเบตจากการฝึกธรรม จารึก 6 คำสอนของพรุพุทธเจ้าจาก Serlingpa สรุปแล้วเป็นหลักของการเรียนการสอนที่เรียกว่า “แสงไฟสำหรับเส้นทางการตรัสรู้” หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นเส้นทาง Bodhi Pradipa
คำถามเกี่ยวกับ บุโรพุทโธ (Borobudur) ที่ยังหาคำตอบไมได้ ในเรื่องของสภาพพื้นที่รอบๆ ก่อนการค้นพบบุโรพุทธโธ (Borobudur) ว่ามีสภาพเป็นอย่างไร และการค้นพบบุโรพุทธโธ (Borobudur) นั้นอยู่ในสภาพที่ฝังอยู่ บางสมมติฐานบอกว่า บุโรพุทธโธ (Borobudur) ในรากฐานแรกเริ่มถูกล้อมรอบด้วยหนองน้ำ และมันถูกฝังอยู่เพราะจากการระเบิดภูเขาไฟเมอราปี (Merapi) ตามจารึกของ Kolkata จารึกไว้ว่า ‘Amawa’ นั่นหมายความว่าทะเลของนม ในภาษาสันสกฤตถูกนำมาใช้ในการอธิบายถึงการเกิดขึ้นของภัยพิบัติ ทะเลของนมนี่ได้รับการแปลความหมายว่า ลาวาของภูเขาไฟเมอราปี บางท่านบอกว่า บางคนบอกว่า บุโรพุทโธ (Borobudur) ถูกฝังโดยลาวาเย็นของภูเขาไฟเมอราปี
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น